เว็บไซด์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยถ่ายทอดตามแนวทางที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เมตตาสอนไว้

 "..พระเจ้าอชาตศัตรูมีความทรยศต่อพระราชบิดาคือพระเจ้าพิมพิสาร เป็นกบฏคิดฆ่าพ่อด้วยอำนาจของพระเทวทัตยุยงส่งเสริม เจตนาเดิมของพระองค์ไม่มี ในจิตใจของท่านนั้นไม่เต็มใจจะทำ แต่ว่าโดนพระเทวทัตยุหนักๆ เข้าก็ทนไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องตามใจเพราะถือว่าเป็นอาจารย์ จึงคิดประหัตประหารพระราชบิดาซึ่งเป็น พระโสดาบัน โดยแย่งราชสมบัติและก็ทรมานพ่อ จับขังคุก ต่อมาก็ให้อดข้าว แต่พระเจ้าพิมพิสารท่านเดินจงกรมจึงอยู่ด้วยธรรมปีติ แม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส ในที่สุดก็ถูกเฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านมีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจของพระองค์ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าจึงมีจิตใจชุ่มชื่น

หลังจากการฆ่าพระราชบิดาตายแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูก็เข้าหาพระ ทำบุญเป็นการใหญ่ ต่อมาได้ขอขมาต่อพระรัตนตรัยและเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตั้งแต่ปฐมสังคายนาเป็นต้นมาความจริงโทษอันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรตรัสว่า "จะต้องตกอเวจีมหานรก แต่อาศัยบุญใหญ่อันนี้จึงช่วยให้พระเจ้าอชาตศัตรูไม่ต้องลงอเวจีมหานรก มาตกอยู่แค่โลหะกุมภีซึ่งเป็นยมโลกียนรกขุมที่ ๑" สำหรับนรกขุมนี้ไม่ได้บอกอายุไว้ ไม่เหมือนนรกขุมใหญ่บอกอายุไว้ แต่ก็นานเหลือเกินเพราะพอลงไป ๑ ขุม อย่างน้อยที่สุดพระพุทธเจ้าตรัสไป ๒-๓ องค์ ก็ยังไม่ได้โผล่ขึ้นมาเลยโลหะกุมภี สำหรับโทษปาณาติบาต ถ้าทำปาณาติบาตก็ต้องไปตกนรกขุมใหญ่ก่อนแล้วไปผ่านนรกบริวาร เศษของกรรมยังไม่หมดต้องมาลงโลหะกุมภี "โลหะ" แปลว่า "ของแข็ง" เช่น เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง เป็นต้น

"กุมภี" แปลว่า "หม้อ"

รวมแล้วแปลว่า "หม้อโลหะใหญ่" มีหม้อทองแดงใหญ่มหึมาใหญ่เท่าๆ กับปริมาณของสัตว์นรกที่จะลงนรกขุมนี้ ถ้ามีสัตว์นรกมากหม้อก็ใหญ่มาก ถ้ามีสัตว์นรกน้อยหม้อก็ใหญ่น้อย ในหม้อทองแดงนี้มีนํ้าทองแดงเป็นนํ้าโลหะที่ถูกเคี่ยวมีความร้อนจัดและมีความรัดตัว บรรดาสัตว์นรกทั้งหลายที่มีโทษปาณาติบาตเหลือเป็นเศษของกรรม นายนิรยบาลก็เอาลงหม้อทองแดงโดยเอาหอกเสียบแล้วก็โยนลงไปในหม้อทองแดงบ้าง เอาค้อนใหญ่ตีหัวให้คะมำลงไปในหม้อบ้าง ในหม้อทองแดงมีนํ้าโลหะร้อนเดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา สัตว์นรกถูกความร้อนเผาผลาญอยู่อย่างนั้น ขึ้นมาปากหม้อแล้วก็จมลงไปก้นหม้อ เมื่อจมลงไปก้นหม้อแล้วก็ไหลขึ้นมาปากหม้อ วนกันอยู่แบบนั้นไม่มีเวลาหยุดจนกว่าจะหมดเศษกรรมเรื่องปาณาติบาตและก็ใช้เวลานานมาก

บางท่านบอกว่าสัตว์เกิดมาเป็นอาหารของคน สำหรับคนเลวเท่านั้นที่พูดแบบนี้ สัตว์ทุกตัวรักชีวิตจะเห็นว่า เวลาที่เราจะเข้าไปจับหรือเวลาที่เราจะฆ่ามัน มันมีอาการดิ้นรนหนีเพื่ออิสรภาพไม่ต้องการให้ใครทำร้ายมัน การฆ่าสัตว์ที่ยังมีชีวิตทุกประเภทจะต้องลงโลหะกุมภี เคยมีพวกหมอมาถามว่า "พวกพยาธิที่อยู่ในท้องก็ดี บรรดาเชื้อโรคทั้งหลายก็ดี ก็มีร่างกายมีชีวิตเหมือนกัน อย่างนี้ถ้าเราฆ่ามีโทษไหม" อันนี้พระพุทธเจ้าไม่ได้บอก บอกแต่พวกเล็นพวกไรต่างๆ แต่ว่าการฆ่าต้องเต็มไปด้วยเจตนา ถ้าหากว่าเราเดินไปเหยียบตายโดยไม่เห็น ไม่มีเจตนาอย่างนี้ ท่านไม่จัดว่าเป็นกรรมต้องลงนรก เวลายุงกัดเรารำคาญเอามือไปลูบไปแตะคิดว่าจะให้ยุงหนีไป บังเอิญเป็นยุงก้นปล่องมันกินเลือดเราเข้าไปเต็มที่แล้วมันไปไม่ไหว ตัวมันอ่อน พอไปถูกเข้าตายโดยไม่มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย อย่างนี้ไม่มีโทษต้องลงโลหะกุมภี

ถ้าไม่ต้องการมายมโลกียนรกขุมที่ ๑ คือโลหะกุมภี ก็มีเมตตาปรานีเข้าไว้ หรือทรงพรหมวิหาร ๔ ทั้งหมด ก็จะไม่ปรากฏร่างของเราในอบายภูมิ.."


ห้องสมุดธรรมะ